D-Dimers Assay
ขบวนการแข็งตัวของเลือด มีความสำคัญในการที่จะหยุดยั้งการไหลของเลือด เมื่อมีการบาดเจ็บของอวัยวะต่างๆของร่างกายเกิดขึ้น
ขณะเดียวกันการแข็งตัวของเลือดก็อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ กรณีที่การแข็งตัวของเม็ดเกิดขึ้นในเส้นเลือด เนื่องจากก้อนของเม็ดเลือด
ที่แข็งตัวถูกกระแสการไหลของเลือดนำไปสู่เส้นเลือดต่างๆได้ทั่วร่างกาย เข้าไปอุดตันเส้นเลือดขนาดเล็ก เข้าขัดขวางการไหลของเลือดที่หล่อเลี้ยงอวัยวะ
ที่สำคัญ เช่น สมอง และ หัวใจ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการอัมพาตหรือหัวใจวายเฉียบพลัน หรือบางกรณีก้อนเม็ดเลือดที่แข็งตัวเกิดขึ้นในบริเวณเส้นเลือดดำใหญ่
ตามแขน ขา ก้อนเม็ดเลือดที่แข็งตัวถูกกระแสเลือดพัดพามาอุดตันเส้นเลือดในปอดส่งผลกระทบต่อระบบการหายใจ
D-Dimers เกิดขึ้นจากขบวนการแข็งตัวของเลือด ขณะมีการสลายตัวของ fibrinogen และ fibrin ซึ่งปริมาณของ D-Dimers ในกระแสเลือดสามารถ
ตรวจวิเคราะห์ได้หลายวิธี อาทิเช่น ELISA, Immunofluorescence Chemiluminescence และ Latex enhanced immunoturbidimetric immunoassay
เป็นต้น แต่ละวิธีก็มีความไว (sensitivity) และ ความแม่นยำ (specificity) ใกล้เคียงกัน
D- Dimers เป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพ (biomaskers) ที่สำคัญในการวินิจฉัยโรคหลายอย่าง อาทิเช่น การอุดตันของเส้นเลือดดำ
( deep venous thrombosis หรือ DVT ) การอุดตันของเส้นเลือดในปอด (pulmonary embolism หรือ PE ) นอกจากนั้นปริมาณของ
D- Dimers ในเลือดจะสูงขึ้นในกรณีอื่นๆได้ด้วย เช่น coronary artery disease , cancer, trauma , pregnancy , infection , renal disease ,
recent surgical procedures , advanced age etc. อย่างไรก็ตามปริมาณ D- Dimers ที่ตรวจพบในกระแสโลหิตจะมีความจำเพาะ ( specificity )
กับโรค DVT และ PE มากกว่าโรคอื่นๆ