รายงานจากทีมผู้เชี่ยวชาญ มหาวิทยาลัยรัฐมินนิโซตา ของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงาน แนะนำให้สหรัฐฯเตรียมรับมือสถานการณ์ที่แย่ที่สุด ที่รวมถึง โควิด 19 ระบาด ระลอกสอง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ซึ่งคือช่วงปลายปี
ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาโรคระบาด มหาวิทยาลัยมินนนิโซตา ไมค์ ออสเตอร์โฮล์ม ระบุว่า สถานการณ์ โควิด 19 ระบาด จะไม่หยุด จนกว่าจะมีประชากรส่วนใหญ่ติดเชื้อถึง 60 – 70 เปอร์เซ็นต์
ออสเตอร์โฮล์ม ได้เขียนวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่มาเป็นเวลา 20 ปี และเป็นที่ปรึกษาให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายสมัย
รายงานดังกล่าวคาดว่า การระบาดจะยาวนานไปอีก 18 ถึง 24 เดือน เพราะโควิด 19 เป็นโรคใหม่ ไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน ในขณะที่เริ่มมีภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) คือกลุ่มประชากรส่วนใหญ่เกิดภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ เริ่มเกิดขึ้น
รายงานระบุ เพราะโควิด 19 มีระยะฟักตัวนานกว่า มีการแพร่ระบาดของคนที่ไม่มีอาการมากกว่า และต้องมีคนติดเชื้อจำนวนมากกว่าไข้หวัดใหญ่ก่อนที่การระบาดจะสิ้นสุด โควิด 19 ดูเหมือนจะระบาดง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่
รายงานแนะนำว่า รัฐบาลควรต้องพัฒนาแผนที่เป็นรูปธรรม รวมถึงนำมาตรการบรรเทาผลกระทบกลับมาใช้ใหม่ เพื่อรับมือกับช่วงพีคของโรค ที่จะเกิดขึ้น
“วัคซีนมีอินธิพลต่อสถานการณ์การระบาด แต่วัคซีนจะไม่มีใช้จนกว่าอย่างน้อยก็ปี 2021 และเราไม่รู้ว่าจะมีความท้าทายแบบไหนเกิดขึ้น ในช่วงที่กำลังพัฒนาวัคซีน”
ขอบคุณข้อมูลจาก https://today.line.me/
เนื้อหาต้นฉบับ https://today.line.me/TH/pc/article/QJ0qqj?utm_source=lineshare