26 พ.ค.63- รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ทีมวิจัยจากประเทศเยอรมันเพิ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ระดับโลก The Lancet ฉบับ 21 พฤษภาคม 2563 นี้เอง
รายงานการตรวจหาไวรัสโรค COVID-19 ในมารดา 2 คน ที่ติดเชื้อโรค COVID-19 เพิ่งคลอดและเลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
ผลการตรวจด้วยวิธี RT-PCR พบว่า มีมารดา 1 คนที่ตรวจพบไวรัสในน้ำนม ในช่วงที่มีอาการโรค COVID-19 อยู่ประมาณ 9 วัน ทั้งนี้สามารถตรวจพบถึง 3 วัน
เค้าทำการคาดประมาณว่ามีไวรัสอยู่ในน้ำนมประมาณ 94,800-132,000 ตัวต่อซีซี
และพบว่าลูกของมารดาคนนี้ก็ติดเชื้อ แต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าติดจากน้ำนมที่กิน หรือจากทางอื่นๆ
งานวิจัยนี้ตอกย้ำให้มีความระแวดระวัง และยังต้องการการวิจัยในกลุ่มประชากรจำนวนมากกว่านี้เพื่อนำไปสู่การสรุปแนวทางหรือคำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมลูกของมารดาที่ติดเชื้อโรค COVID-19 ต่อไป
แต่ในยุคนี้ที่เรายังไม่มียามาตรฐานและวัคซีนป้องกัน ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และมีอาการคล้ายไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ หรือมีอาการอื่นๆ ที่น่าสงสัยว่าจะเป็นโรค COVID-19 เช่น ตาแดง ดมแล้วไม่ได้กลิ่น กินอาหารไม่ได้รสชาติ เป็นต้น ก็น่าจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองให้ดีว่าติดเชื้อหรือไม่ จะได้วางแผนในการดูแลรักษาและป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิง
Rüdiger Groß et al. Detection of SARS-CoV-2 in human breastmilk. The Lancet. 21 May 2020.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.thaipost.net
เนื้อหาต้นฉบับ https://www.thaipost.net/main/detail/66951