9มิ.ย.63-เพจแพทย์ไทยไอเดียสุด/Doc Idea D ได้โพสต์ข้อความว่า จาการวิจัยล่าสุดจาก 2 มหาวิทยาลัยใหญ่ของสหรัฐ และอังกฤษตี ระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์เซฟชีวิตคนได้หลาย 100 ล้านคน แต่ก็ระบุว่า ตอนนี้อาจจะมีผู้ติดเชื้อไป 500 กว่าล้่านคนได้เช่นเดียวกัน
มี 2 วิจัยขนาดใหญ่ที่เพิ่งลงในวารสาร Nature โดยมีสื่อ Washington Post นำมาสรุปความให้
วิจัยแรกจากสหรัฐ the University of California at Berkeley ระบุไว้ว่า
1. ศึกษาใน 6 ประเทศ จีน สหรัฐ เกาหลี ฝรั่งเศส อิตาลี อิหร่าน
2. มาตรการ Shut Down ช่วยคนสหรัฐไว้ 60 ล้านคน ช่วยคนจีนไว้ 285 ล้านคน
3. ตามดูมาตรการของแต่ละที่รวมกัน 1,717 มาตรการ ได้ทำเทสต์รวม 11 ประเทศ มีการเทสต์ตรวจหาเชื้อไป 62 ล้านเทสต์
4. ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจเทสต์หาเชื้อเลย ทำให้คาดการณ์ว่า มีผู้ติดเชื้อจริงอาจจะมีมากถึง 530 ล้านคน
5. เวลาในการใช้มาตรการต่างๆ นั้นสำคัญมาก เริ่มไวได้ผลดีมากกว่าเริ่มช้าชัดเจน
6. วิจัยตามวิเคราะห์์ให้ว่า มาตรการไหนช่วยมาก ช่วยน้อย ... เพื่อให้ประเทศที่เพิ่งเริ่มติดเชื้อ ได้ทราบแนวทางดีๆ
7. มีประเทศมากมายตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่าของการปิดเมือง หยุดภาคเอกชน ว่าคุ้มค่าแคไหน อย่างไร ในการ Save ขีวิตคนไปมากมาย
ฉบับเต็มที่ยาวมากตามอ่านได้ใน https://www.nature.com/arti…/s41586-020-2404-8_reference.pdf
วิจัยที่ 2 โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Imperial College London อังกฤษ
1. มาตรการ Shut Down เซฟชีวิตคนใน 11 ประเทศไป 3.1 ล้านชีวิต
2. เฉพาะของอังกฤษ เซฟไป 500000 ชีวิต
3. ลดอัตราการติดเชื้อไปถึง 82%
4. แต่พอมีมาตรการต่างๆ อัตราการติดเชื้อในแต่ละประเทศ จึงเหลือ 3-4% ซึ่งทำให้ไม่เกิด Herd Immunity
5. ให้ระวังว่า ถ้าลดมาตรการต่างๆ แบบไม่ระวังจะมีผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ Wave 2 เพิ่มขึ้นมา
(ผลงานฉบับเต็มดูได้ที่ Estimating the effects of non-pharmaceutical interventions on COVID-19 in Europe) https://www.nature.com/articles/s41586-020-2405-7
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.thaipost.net
เนื้อหาต้นฉบับ https://www.thaipost.net/main/detail/68204