8 พ.ย. 2563 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 8 พฤศจิกายน 2563...
ทั่วโลกแตะหลัก 50 ล้านคนไปเรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาราว 21 วัน
เวลาที่ใช้ในการติดเพิ่มทุก 10 ล้านคนนั้นลดลงเรื่อยๆ จาก 43 มา 38 มา 31 และมา 21 วัน เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลย
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มอีก 462,499 คน รวมแล้วตอนนี้ 50,071,869 คน ตายเพิ่มอีก 6,870 คน ยอดตายรวม 1,254,507 คน
อเมริกา ติดเพิ่ม 124,398 คน รวม 10,155,482 คน ตายเพิ่มอีกมากถึง 1,188 คน ขณะนี้ตายไปแล้ว 243,127 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 39,230 คน รวม 8,500,003 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 5,000 คน รวม 5,636,181 คน
รัสเซีย ทำลายสถิติเดิม ติดเพิ่มอีกถึง 20,396 คน รวม 1,753,836 คน
อันดับ 5-10 ตอนนี้ ฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินา โคลอมเบีย สหราชอาณาจักร และเม็กซิโก บางประเทศติดถึงหลายหมื่นต่อวัน
อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เมียนมาร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น ติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลายหมื่น
ตอนนี้อิตาลีติดเชื้อแต่ละวันหลายหมื่นคน คาดว่าอาจแซงเปรูขึ้นอันดับ 11 ของโลกในวันพรุ่งนี้ได้
หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน
ส่วนจีน และเกาหลีใต้ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ ฮ่องกง ออสเตรเลีย เวียดนาม และนิวซีแลนด์ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
...สถานการณ์ในเมียนมาร์ ทะลุหกหมื่นไปแล้ว เมื่อวานติดเพิ่ม 1,071 คน ตายเพิ่มอีก 20 คน ตอนนี้ยอดรวม 60,348 คน ตายไป 1,396 คน อัตราตายตอนนี้ 2.3%
ในขณะที่ต้องจับตาดูคือ ญี่ปุ่น ขณะนี้ติดเชื้อต่อวันเกินพันคนมาแล้ว การระบาดดูแนวโน้มจะทวีความรุนแรงขึ้น
หากโรค COVID-19 ยังคงอัตราเร็วแบบนี้ ปลายปีเราอาจมีตัวเลขสะสมอยู่ที่ราว 80 ล้านคน แต่หากไวรัสทวีความรุนแรงขึ้นแบบแนวโน้มที่ผ่านมา โดยประชาคมโลกไม่ได้ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ก็อาจมีสิทธิแตะหลักร้อยล้านได้
หวังใจลึกๆ ไว้ว่า มาตรการเข้มข้นที่หลายประเทศกำลังดำเนินการอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดังที่เห็นในยุโรปตอนนี้ น่าจะมีส่วนชะลอการระบาดให้ช้าลงได้ในขณะที่เรารอดูผลการศึกษาวัคซีนป้องกันโรค ที่จะออกมาช่วงปลายปีนี้
ยังยืนยันเช่นเดิมครับว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ ไม่ว่าจะชาติใดก็ตาม เพราะเสี่ยงกันถ้วนหน้า
หลายเคสที่ผ่านมา ติดเชื้อก็หาต้นตอไม่ได้
ชีวิตจริงก็มีสาเหตุเพียง ติดโดยนำเข้ามาจากต่างประเทศ หรือระหว่างเดินทาง หรือภายในประเทศ
หนทางป้องกันคือ "ไม่นำเข้ามาจากต่างประเทศโดยไม่จำเป็น" และ"ส่งเสริมให้เกิดการเข้าถึงการตรวจคัดกรองโรคภายในประเทศอย่างทั่วถึง"
แต่หากเราสังเกต จะพบว่า ที่ทำๆ กันอยู่นั้น ทั้งสองเรื่องดันไม่ได้ทำในแบบที่ควรทำ แถมดันพยายามจะลดวัน ทำให้ปราการกักตัวมาตรฐานอ่อนลงด้วยซ้ำ
ขอให้เราทุกคนรักตัวเอง รักครอบครัว ป้องกันตัวเสมอนะครับ
ด้วยรักต่อทุกคน