มีรายงานข่าวจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของประเทศบราซิล ซึ่งรายงานดังกล่าวจะได้ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ชื่อดัง (Lancet) ต่อไป
เป็นกรณีผู้ป่วยผู้หญิงชาวบราซิลวัย 45 ปี จากเมือง Salvador รัฐ Bahia โดยนักวิจัยจาก IDOR ได้ทำการถอดรหัสพันธุกรรมของไวรัสที่ติดเชื้อในผู้หญิงรายนี้
และพบว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งแพร่ระบาดมาจากอังกฤษและแอฟริกาใต้
ที่เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นและจะต้องติดตามต่อไป ก็คือ
ในผู้ป่วยหญิงรายนี้ได้เคยติดโควิดมาแล้ว
ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 ต่อมาอีกห้าเดือน หลังจากที่หายดีแล้ว ในวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ก็เกิดติดโควิดซ้ำเป็นครั้งที่สอง
การติดโควิดซ้ำเป็นครั้งที่สอง เคยมีรายงานประปรายในหลายประเทศ
แต่ที่ผ่านมาจะเป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดิมตัวเดียวกัน
แต่ในผู้ป่วยรายนี้ต้องนับเป็นเคสแรกของโลก ที่รายงานอย่างเป็นทางการว่า เกิดการติดเชื้อซ้ำครั้งที่สอง ด้วยไวรัสคนละสายพันธุ์กัน กับการติดครั้งที่หนึ่ง และทำให้เกิดอาการรุนแรงมากกว่าครั้งที่หนึ่ง
โอกาสที่การติดไวรัสครั้งที่สอง จากไวรัสคนละสายพันธุ์กัน อาจจะเกิดจากสองสาเหตุด้วยกันคือ
1) ระดับภูมิต้านทานต่อไวรัสโคโรนาได้ลดลง จนไม่สามารถป้องกันได้ ส่วนไวรัสทั้งสองชนิดนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก ภูมิต้านทานจากสายพันธุ์ที่หนึ่งยังป้องกันสายพันธุ์ที่สองได้ เพียงแต่ระดับไม่พอป้องกันอันนี้ก็จะไม่ค่อยเป็นปัญหา
2) ถ้าระดับภูมิต้านทานต่อไวรัสสายพันธุ์เดิมไม่ได้ลดลง และเพียงพอที่จะป้องกันได้ แต่เมื่อเจอไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ แล้วเกิดป้องกันไม่ได้
ถ้าเป็นกรณีที่สองนี้ ก็จะเป็นปัญหาใหญ่กับวงการแพทย์ต่อไป ว่าภูมิต้านทานต่อไวรัสสายพันธุ์เดิม ไม่สามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้
ผู้ที่เคยหายป่วยจากการที่ที่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ เดิม และมีภูมิต้านทานในระดับที่สูงพอ จึงมีความเสี่ยงที่จะติดจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้
และทำให้อาจเกิดปัญหาเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีน ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อป้องกันไวรัสสายพันธุ์เดิม อาจจะป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ทางห้องปฏิบัติการของบริษัทไฟเซอร์ได้แจ้งว่า เท่าที่ได้ตรวจสอบประสิทธิภาพของวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ก็ยังดูว่าป้องกันได้อยู่
จึงต้องติดตามต่อไปว่า ในผู้ป่วยหญิงชาวบราซิล รายนี้ระดับภูมิต้านทานที่มีอยู่ในขณะติดเชื้อไวรัสซ้ำครั้งที่สอง อยู่ในระดับที่สูงหรือต่ำ
ถ้าต่ำก็จะโชคดีว่า ที่ติดเชื้อเพราะภูมิต้านทานต่ำ
แต่ถ้าภูมิต้านทานสูง แล้วยังติดเชื้อซ้ำครั้งที่สอง ก็แปลว่าภูมิต้านทานนั้นป้องกันได้เฉพาะไวรัสเดิม
ไม่สามารถป้องกันไวรัสใหม่ได้ ซึ่งจะเป็นปัญหามากทีเดียว
Reference