Font Size

โควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ แพร่เชื้อเร็วขึ้น 20% ลดประสิทธิภาพวัคซีน

 

สหรัฐฯ ยกเชื้อ โควิด-19 กลายพันธุ์ แคลิฟอร์เนีย เป็นสายพันธุ์น่ากังวล แพร่เชื้อเร็วขึ้น 20% ลดประสิทธิภาพของการรักษาหรือวัคซีน รวมถึงการตรวจวินิจฉัยล้มเหลว

 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ได้กำหนดให้เชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19) ชนิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ ที่พบครั้งแรกในรัฐแคลิฟอร์เนียเป็น “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” (VOC) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันพุธ (17 มีนาคม 2564) ที่ผ่านมา

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า เชื้อโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ 2 สายพันธุ์ ซึ่งมีชื่อว่า บี.1.427 (B.1.427) และ บี.1.429 (B.1.429) สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าปกติถึงร้อยละ 20 ส่งผลให้แนวทางการรักษาบางส่วนอาจมีประสิทธิภาพน้อยลง

เชื้อโรคโควิด-19 ชนิดกลายพันธุ์ ในแคลิฟอร์เนียก่อให้เกิด “ผลกระทบต่อปฏิกิริยาลบล้างฤทธิ์ของแนวทางการรักษาแบบฉุกเฉิน (EUA) อย่างมีนัยสำคัญในบางส่วน ไม่ใช่ทั้งหมด” ทั้งยังทำให้ “ปฏิกิริยาลบล้างฤทธิ์ของเซรุ่มจากผู้ป่วยที่กำลังหายดีและเซรุ่มหลังฉีดวัคซีนลดลงในระดับปานกลาง”

อนึ่ง เชื้อไวรัส โควิด-19 สามารถเปลี่ยนแปลงผ่านการกลายพันธุ์ได้เสมอ ทำให้สหรัฐฯ และทั่วโลกต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ชนิดกลายพันธุ์มากมายตลอดการระบาดใหญ่ครั้งนี้

“สายพันธุ์ที่น่ากังวล” ที่ถูกกำหนดโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ เป็นสายพันธุ์ที่พบหลักฐานว่ามีความสามารถแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการรักษาตัวในโรงพยาบาลหรือการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น รวมถึงลดปฏิกิริยาลบล้างฤทธิ์ที่แอนติบอดีสร้างขึ้นระหว่างการติดเชื้อหรือการฉีดวัคซีนครั้งก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ลดประสิทธิภาพของการรักษาหรือวัคซีน รวมถึงการตรวจวินิจฉัยล้มเหลว

ปัจจุบันศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ กำหนดให้เชื้อไวรัส โควิด-19 จำนวน 5 สายพันธุ์ จัดอยู่ในประเภท “สายพันธุ์ที่น่ากังวล” ซึ่งนอกจากสองสายพันธุ์ข้างต้นแล้ว ยังมีอีกสามสายพันธุ์ ได้แก่ บี.1.1.7 (B.1.1.7) ที่พบครั้งแรกในสหราชอาณาจักร บี.1.351 (B.1.351) ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ และ พี.1 (P.1) ที่พบครั้งแรกในบราซิล

การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆ ในสหรัฐฯ ถูกตรวจสอบเป็นประจำผ่านการเฝ้าระวังลำดับสารพันธุกรรม การศึกษาในห้องปฏิบัติการ และการสอบสวนทางระบาดวิทยา

อย่างไรก็ดี ทางการสาธารณสุขเผยว่ามาตรการป้องกันต่างๆ อาทิ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ทำความสะอาดมือเป็นประจำ และฉีดวัคซีนอย่างทันท่วงที สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ชนิดตั้งต้นก่อโรคโควิด-19 และชนิดกลายพันธุ์อื่นๆ ที่อุบัติขึ้นใหม่ได้

(แฟ้มภาพซินหัว : บุคลากรการแพทย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้ชายในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ วันที่ 5 ก.พ. 2021)