Font Size

 

ที่กระทรวง​สาธารณสุข​ นพ.ศุภกิจ​ ศิริ​ลักษณ์ ​อธิบดี​กรม​วิทยา​ศาสตร์​การแพทย์​ ​แถลงข่าวภายหลังองค์การอนามัยโลกประกาศให้เชื้อไวัรสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล โดยตั้งชื่อว่า “โอไมครอน” (Omicron) ว่า มีข้อมูลตั้งแต่กลาง พ.ย.64 ว่ามีการระบาดที่บอตสวานา ขยับมาที่แอฟริกาใต้ ไปหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง เบลเยียม อิสราเอล โดยบางคนที่ตรวจเชื้อเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว สำหรับประเทศไทยยังไม่พบเชื้อตัวนี้ 

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า เชื้อโอไมครอนมีการกลายพันธุ์​หลายตำแหน่งมากถึง 50 กว่าตำแหน่ง โดยมี 32 ตำแหน่งอยู่ในสไปก์โปรตีน หรือโปรตีนหนามที่จะมาจับกับเซลล์มนุษย์ ซึ่งมากกว่าสายพันธุ์​เดลต้า (อินเดีย)​ ที่มีการกลายพันธุ์​ในสไปก์โปรตีนเพียงแค่ 9 ตำแหน่ง ทั้งนี้การกลายพันธุ์บางส่วนอาจเพิ่มอำนาจการแพร่เชื้อได้มากขึ้น น่าจะหลบภูมิคุ้มกันได้พอสมควร หรือดื้อต่อวัคซีน รวมถึงข้อมูลเบื้องต้นในบริเวณพื้นที่ที่พบ พบว่าการตรวจเจอเชื้อค่อนข้างเข้มข้น และหาเชื้อง่ายในแต่ละรายที่ตรวจพบ เนื่องจากเชื้อเยอะมากสะท้อนให้เห็นว่าอาจมีการติดเชื้อง่าย และเร็วขึ้น จึงต้องติดตามข้อมูลกันต่อไป

นพ.ศุภกิจ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ไทยมีเปิดประเทศ มี Test&Go ซึ่งกำลังประสานกับผู้ตรวจเชื้อ ให้ส่งตัวอย่างของผู้ติดเชื้อมาตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อย่างไรก็ตาม การกลายพันธุ์ของโควิด-19 ครั้งนี้ ไม่ใช่ลูกหลานของเดลต้า หรืออัลฟ่า (อังกฤษ)​ แต่เป็นการกลายพันธุ์ตัวใหม่ และหลายตำแหน่ง แต่ข้อมูลยังมีไม่มากพอ ต้องมีการติดตาม และระบบเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

นพ.ศุภกิจ​ กล่าวเพิ่มเติมว่าข้อได้เปรียบของไทย คือ ประชาชนค่อนข้างเคร่งครัดในการปฎิบัติตามมาตรการต่างๆ ฉะนั้น ขอให้ทุกคนปฎิบัติในการป้องกันโรคอย่างเข้มงวดต่อไป การ์ดอย่าตก เพราะไม่ว่าจะสายพันธุ์ไหนเกิดขึ้นก็สามารถจัดการได้ และการดื้อต่อวัคซีนไม่ใช่ข้อมูล 100% ขอให้ทุกคนตั้งสติและรับมือ มั่นใจในภาครัฐว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้พี่น้องประชาชนปลอดภัย และการตรวจหาพันธุกรรมไวรัสมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีเครือข่ายที่เข้มแข็งในการทำงานเรื่องนี้ รวมถึงอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดในการเข้าประเทศ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะทางอากาศเท่านั้น แต่ตามชายแดนต่างๆ ก็ต้องกวดขันอย่างจริงจัง 

ข้อมูลจาก https://www.thaipost.net/covid-19-news/34047/