"หมอมนูญ" ยกเคสเปรียบเทียบ ผู้รับ "ยารักษาโควิด" โมลนูพิราเวียร์ พบผู้ฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม รักษาอาการได้ดีกว่าผู้ไม่ได้รับวัคซีน แนะเลิกใช้ ฟาวิพิราเวียร์ ในการรักษาผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง
"หมอมนูญ" นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ยกเคสเปรียบเทียบผู้ป่วยสูงอายุ 2 คน คนหนึ่งได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม อีกคนหนึ่งไม่เคยรับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ได้ "ยารักษาโควิด" โมลนูพิราเวียร์ เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรง
หลังติดเชื้อไวรัสโควิด19
ผู้ป่วยชายอายุ 74 ปี มีโรคความดันโลหิตสูง ต่อมลูกหมากโต ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม เข็มสุดท้ายเดือนมิถุนายน 2564 เริ่มมีไข้ ไอ เจ็บคอ 3 วัน ไม่เหนื่อย
ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด RT-PCR บวก วันที่ 3 เมษายน 2565 ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ เอกซเรย์ปอดปกติ เริ่มยาโมลนูพิราเวียร์ 4 แคปซูล ทุก 12 ชั่วโมง ไข้ลง ไอ เจ็บคอดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงจากยา หลังกินยาโมลนูพิราเวียร์ครบ 5 วัน สบายดี กลับบ้านได้ ติดตามอีก 2 สัปดาห์ เอกซเรย์ปอดปกติ
ผู้ป่วยชายอายุ 77 ปี ปกติแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่เคยฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว ไอ มีเสมหะ 4 วัน ไม่มีไข้ ไม่เหนื่อย ตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด19 RT-PCR บวกวันที่ 11 เมษายน 2565 ระดับออกซิเจนในเลือดปกติ เอกซเรย์ปอดปกติ ค่าบ่งชี้ถึงการอักเสบในร่างกายปกติ hs-CRP 1.6 (ค่าปกติ 0-5) เริ่มยาโมลนูพิราเวียร์วันที่ 12 เมษายน 2565 ไอ เสมหะลดลง ไม่มีผลข้างเคียงจากยา หลังกินยาครบ 5 วันอาการดีขึ้น แต่วันที่ 18 เมษายน หลังหยุดยาโมลนูพิราเวียร์ 1 วัน มีไข้ เจ็บคอ ตรวจพบค่าการอักเสบในร่างกายเพิ่มขึ้น hs-CRP 30.2 เอกซเรย์ปอดปกติ ระดับออกซิเจนในเลือดยังปกติ ได้ให้ยาสเตียรอยด์ 5 วัน อาการไข้ ระคายคอดีขึ้น ติดตามผู้ป่วยดีขึ้น เอกซเรย์ปอดปกติ
สรุป : การได้รับวัคซีน 2 เข็มถึงแม้จะยังไม่ได้เข็มกระตุ้น ดีกว่าไม่เคยรับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว วัคซีนช่วยทำให้ผลการรักษาดีขึ้น ยาโมลนูพิราเวียร์ ให้เร็วภายใน 5 วัน มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันคนสูงอายุที่ยังไม่ได้วัคซีนเข็มแรก หรือได้รับ 2 เข็มยังไม่ได้เข็มกระตุ้น ไม่ให้ป่วยรุนแรง ป้องกันปอดอักเสบได้ ถึงเวลาแล้วที่แพทย์ไทยไม่ควรใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ในการรักษาผู้ป่วยโควิดที่มีความเสี่ยงสูงเกิดอาการรุนแรง เพราะเรามียาที่มีประสิทธิภาพดีกว่า