“พิพัฒน์” เผยมติ “ศบค.” ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส ไม่บังคับสวมหน้ากากอนามัย พร้อมยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ปลดล็อกให้ภาคธุรกิจกลางคืน สถานบันเทิง กลับมาเปิดได้ถึงตี 2 ตามเดิม และอนุญาตให้เฉพาะ “โรงแรม” ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วง 14.00-17.00 น.
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและท่องเที่ยว ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 เป็นต้นไป เพื่อกระตุ้นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย ดังนี้
1.ยกเลิกระบบไทยแลนด์พาส (Thailand Pass) ไม่บังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อและแสดงเอกสารการทำประกันสุขภาพ ส่วนใบรับรองการฉีดวัคซีน (Vaccination Certificate) ยังต้องแสดงกับสายการบินในขั้นตอนการเช็กอินจากประเทศต้นทางอยู่
2.ยกเลิกคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัย ประชาชนคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถสวมหน้ากากอนามัยได้ตาม “ความสมัครใจ” แต่ยังคง “แนะนำ” ให้สวมใส่เมื่ออยู่ในสถานที่แออัด อย่างการจัดงานที่มีคนร่วมงานเกิน 2,000 คนขึ้นไป เช่น คอนเสิร์ต แนะนำว่าควรใส่หน้ากากอนามัยไว้ เพื่อเฝ้าระวังการระบาดของโควิด-19
3.ยกเลิกการกรอกใบ ตม.6 (การกรอกรายการของคนต่างด้าว ซึ่งเดินทางเข้าในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร) สำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางทางอากาศ
4.ขยายเวลาการเปิดให้บริการของ “ธุรกิจภาคกลางคืน” เช่น สถานบันเทิง ผับ บาร์ และคาราโอเกะ กลับคืนสู่ภาวะปกติ ให้เป็นไปตามกฎหมายเดิม เปิดบริการได้ถึงเวลา 02.00 น.
5.อนุญาตให้เฉพาะในพื้นที่ “โรงแรม” ต่างๆ ทั่วประเทศ สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้เข้าพักได้ ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. เพื่อสนับสนุนบรรยากาศการท่องเที่ยว เช่น ถ้านักท่องเที่ยวเล่นน้ำในโรงแรม และต้องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ต้องหยุดขายเมื่อถึงเวลา 14.00 น. คงส่งผลไม่ดีนัก
"ต้องย้ำว่าเฉพาะในโรงแรมเท่านั้น เพราะเป็นการบริการนักท่องเที่ยวจริงๆ ส่วนร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เป็นดุลยพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัด ที่จะประสานและหารือกับกระทรวงมหาดไทยต่อไป"
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากมติ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการเดินทางและท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการยกเลิกระบบ Thailand Pass มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป จะส่งผลดีต่อการกระตุ้นยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น ทำให้มีจำนวนเดินทางเข้าไทยเพิ่มเป็น 25,000-30,000 คนต่อวัน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 20,000-25,000 คนต่อวัน
และ คาดการณ์ว่าตลอดปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 7.5 ล้านคน แต่จะเร่งสปีดให้ได้ถึง 10 ล้านคน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ไฮซีซั่น ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.นี้ คาดมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา 1.5 ล้านคนต่อเดือน หรือเฉลี่ยวันละ 50,000 คน
“ส่วนการเสนอขอยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเป็นระยะเวลา 6 เดือน (1 ก.ค-31 ธ.ค. 65) และขยายเวลาระยะเวลาพำนักของ Tourist Visa จาก 30 วัน เป็น 45 วัน รวมทั้ง ฟรีวีซ่า ผ.30 เป็น ผ.45 และวีซ่าหน้าด่าน หรือ Visa on Arrival (VOA) จาก 15 วัน เป็น 45 วัน ตามข้อเสนอของเอกชน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเพิ่มวันพำนักในไทยนานขึ้นนั้น ยังไม่ได้นำเข้ามาหารือใน ศบค. ครั้งนี้”
ข้อมูลจาก https://www.bangkokbiznews.com/business/1010552?anf=