ย้อนรอยไทยรบพม่า “ทักษิณ” กับวาทะเด็ด โอเวอร์รีแอ๊ก ตำหนิผู้นำกองทัพสมัยโน้น กรณีปฏิบัติการสั่งสอนทหารพม่า คอลัมน์...ท่องยุทธภพ โดย...ขุนน้ำหมึก
ลืมแล้วหรือ “ทักษิณ” กับวาทะเด็ด โอเวอร์ รีแอ๊ก ตำหนิผู้นำกองทัพสมัยโน้น กรณีทหารไทยยิงตอบโต้ทหารพม่า
พ.ศ.นี้ มีนักการเมืองชี้บิ๊กตู่รู้เห็นเป็นใจกองทัพเมียนมา คงลืมเรื่อง “ทักษิณ” ไม่พอใจบิ๊กกองทัพไทยในอดีตไปแล้ว
หลังเกิดเหตุเครื่องบินมิก-29 ของกองทัพเมียนมา รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าไทยที่ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2565 ทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านบางคนวิจารณ์กองทัพไทยว่า รู้เห็นเป็นใจกับเผด็จการ ทหารเมียนมา แถม ส.ส.ระดับหัวหน้าพรรคเล็กยังบอกว่า ยิง(เครื่องบิน)ก่อนค่อยเจรจา
หลายคนอาจลืมไปว่า ทักษิณ ชินวัตร เคยวิจารณ์กองทัพไทย ที่ตอบโต้ทหารเมียนมาอย่างรุนแรง ด้วยวาทะ “โอเวอร์ รีแอ๊ก”
แม้วันนี้บริบทสังคมการเมืองเมียนมาจะเปลี่ยนไป แต่ตัวละครหน้าเดิม ๆ ยังมีอำนาจอยู่ และหลายคนมีความใกล้ชิดกับทักษิณ
‘ปั่นไทยรบพม่า’
แนวรบด้านตะวันตกสมัย “ทักษิณ” กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เปลี่ยนแปลง กลุ่มชาติพันธุ์ยังสู้รบกับทหารเมียนมาอยู่เหมือนเดิม
กรณีเครื่องบินรบเมียนมาล้ำแดน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าได้ประสานไปยังทางการเมียนมาแล้ว ยอมรับว่ารุกล้ำจริง แต่ได้ขอโทษถึงรัฐบาลไทยแล้ว ว่าไม่มีความตั้งใจและไม่ต้องการมีปัญหากับกองทัพไทย
อีกด้านหนึ่ง มานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงกรณีเครื่องบินเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยว่า เครื่องบินดังกล่าว ไม่ได้บินเข้ามารอบเดียว แต่บินเข้ามาถึง 3 ครั้ง ภายในเวลา 20 นาที ก่อนทำการโจมตีในเวลา 17.00 น. ด้วยการใช้อาวุธจากอากาศยาน
ส.ส.ก้าวไกลคนนี้ ได้ตั้งคำถามว่า มีการรู้เห็นเป็นใจของกองทัพไทยหรือไม่ ที่เปิดให้มีการบินรุกล้ำโจมตีชนกลุ่มน้อย
ขณะที่ ไพศาล พืชมงคล นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนสติคนไทย โดยอ้างว่า โซเชียลที่ประเทศตะวันตกมาจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย “..ปั่นหัวให้คนไทยโกรธกองทัพอากาศ และเรียกร้องให้ประนามพม่าว่ารุกรานประเทศไทย”
ไพศาลชี้ว่า มีการทำกันอย่างเป็นกระบวนการ “...เขาปั่นกระแสเรื่องนี้ก็เพราะต้องการให้ไทยทำสงครามกับพม่า ถ้าไทยทำสงครามกับพม่าหรือเกิดการปะทะกันขึ้น #นาโต้ 2 ก็จะแผลงฤทธิ์ทันที”
‘ย้อนรอยทักษิณ’
20 ปีที่แล้ว “ทักษิณ” งัดข้อกับผู้นำกองทัพ กรณีทหารกองทัพภาคที่ 3 ตอบโต้ทหารเมียนมา ที่รุกล้ำแดนเข้ามา
ถ้ายังจำกันได้ สมัยที่ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ปี 2544 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ยังเป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ) ได้เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงในเรื่องของการวางนโยบายระหว่างประเทศของไทยและเมียนมา เห็นได้ชัดว่า ทักษิณมีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งที่จะเจรจาด้านธุรกิจการค้ากับเมียนมา แต่ พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่สู้จะกระตือรือร้นนัก
ช่วงเดือน มิ.ย.2545 ทหารเมียนมา เปิดยุทธการปราบปรามชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และได้รุกเข้ามาในเขตแดนของไทย กองทัพภาคที่ 3 ได้ตอบโต้ทหารเมียนมาอย่างรุนแรง
อดีตนายกฯทักษิณ รู้สึกไม่พอใจ ปฏิบัติการทางทหารครั้งนั้น จึงได้วิพากษ์ปฏิบัติการของกองทัพไทยมีต่อกองทัพเมียนมา เป็นการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ หรือ โอเวอร์รีแอ๊ก
ปลายปี 2545 พล.อ.สุรยุทธ์จึงถูกโยกจาก ผบ.ทบ.ไปเป็น ผบ.สส. จนเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2546
เวลานั้น ฟากฝั่งเมียนมา พล.อ.หม่องเอ รองประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (SPDC) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้นำหมายเลข 2 รองจากนายพล ตาน ฉ่วย ส่วน พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย กำลังเป็นนายทหารดาวรุ่ง
ทักษิณมีความสนิทสนมกับนายพลตานฉ่วย และ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ซึ่งใครเคยอ่านเรื่องคลิปถั่งเช่า ก็คงจะทราบถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างตระกูลชินวัตร กับกลุ่มผู้นำทหารเมียนมา
สถานการณ์เปลี่ยน ผู้มีอำนาจก็เปลี่ยน ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.จึงลุกมาวิพากษ์ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า รู้เห็นเป็นใจกับผู้นำทหารเมียนมา
ณัฐวุฒิคงจำไม่ได้ว่า ทักษิณเคยวิพากษ์นายทหารไทยว่า โอเวอร์รีแอ๊ก เพราะนำกำลังทหารรบทหารเมียนมาที่รุกล้ำแดนไทย
ข้อมูลจาก https://www.komchadluek.net/scoop/520879?adz=