2 ก.ย. 2565 – นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า 2 ปีกว่าที่ผ่านมา คนที่ติดตามการทำงานขององค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด จะสังเกตเห็นว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกบางเรื่องของโรคโควิด-19 ดูจะล่าช้าเกินไปสำหรับองค์กรระดับโลก
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด องค์การอนามัยโลกกว่าจะยอมรับว่า เชื้อไวรัสโรคโควิด-19 สามารถแพร่กระจายทางอากาศ ติดต่อกันทางการหายใจเหมือนเชื้อไวรัสโรคหัด อีสุกอีใส และเชื้อวัณโรค ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปี
ผมออกมาให้ความเห็นว่าไวรัสโควิด-19 สามารถแพร่กระจายได้ทางอากาศ หลังจากเห็นการระบาดอย่างเป็นกลุ่มก้อนในสนามมวยลุมพินีในเดือนมีนาคม 2563 มีคนติดเชื้อในสนามมวยวันนั้นมากกว่า 50 คน ทั้งๆที่อยู่ห่างกันหลายสิบเมตร เพราะอยู่ในสถานที่ที่ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ อากาศถ่ายเทไม่ดี คนป่วยตะโกนเสียงดัง ส่งเสียงเชียร์ ปล่อยเชื้อไวรัสออกมาในอากาศ โดยช่วงนั้นคนยังใส่หน้ากากอนามัยน้อยมาก คนติดเชื้อจากการหายใจเชื้อไวรัสที่ล่องลอยอยู่ในอากาศเป็นเวลาหลายชั่วโมงไปได้ไกลหลายสิบเมตร ประเทศไทยเสียเงิน เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามพื้น เช่นตลาด และโรงเรียนที่พบการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันเลิกทำแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ผอ.องค์การอนามัยโลกออกแถลงการณ์ เรายังพูดไม่ได้ว่า “เรากำลังเรียนรู้อยู่ร่วมกับโควิด”
เรื่องนี้ผมได้ออกมาแนะนำให้คนไทยเรียนรู้อยู่ร่วมกับโควิดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เพราะเห็นว่าเราไม่มีทางกำจัดเชื้อไวรัสโควิดให้หมดไปจากโลกนี้ได้ เราต้องยอมรับ และอยู่ร่วมกับไวรัสโควิดอย่างมีสติ อย่าท้อแท้ อย่าวิตกกังวล กลัวโรคโควิดมากเกินไป
ปัจจุบันรัฐบาลเกือบทุกประเทศกำลังปรับลดระดับการบริหารจัดการโรคโควิด-19 ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับโรคติดต่อเฝ้าระวังตามฤดูกาลเช่นไข้หวัดใหญ่ และใช้วิธีการที่เข้มงวดน้อยลง ยืดหยุ่นมากขึ้นในการลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เพื่อสร้างสมดุลระหว่างกิจกรรมทางการศึกษา การท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม และสาธารณสุข.
ข้อมูลจาก https://www.thaipost.net/covid-19-news/212868/