เผยแพร่: 8 ต.ค. 2564 10:08 ปรับปรุง: 8 ต.ค. 2564 10:08 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ฟินแลนด์เมื่อวันพฤหัสบดี (7 ต.ค.) หยุดใช้วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา ในผู้ชายอายุน้อย ท่ามกลางรายงานผลข้างเคียงเกี่ยวกับโรคหัวใจและหลอดเลือด (cardiovascular) ที่เกิดขึ้นน้อยมาก ตามรอยสวีเดนและเดนมาร์กที่จำกัดการใช้วัคซีนตัวดังกล่าวไปก่อนหน้านี้
มิกา ซัลมิเนน ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพฟินแลนด์ เปิดเผยว่า ฟินแลนด์จะฉีดวัคซีนของไฟเซอร์แทนโมเดอร์นา ให้ผู้ชายที่เกิดในปี 1991 หรือหลังจากนั้น
"ผลการศึกษาในแถบนอร์ดิกฉบับหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับฟินแลนด์ สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ก พบว่า ผู้ชายอายุต่ำกว่า 30 ปีที่ฉีดวัคซีนสไปค์แว็กซ์ของโมเดอร์นา มีความเสี่ยงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ เล็กน้อยในอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ" เขากล่าว
ปัจจุบันฟินแลนด์อนุมัติฉีดวัคซีนเฉพาะกับคนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สวีเดนและเดนมาร์กแถลงเมื่อวันพุธ (6 ต.ค.) จะหยุดใช้วัคซีนของโมเดอร์นาสำหรับวัยรุ่นและเด็กทั้งหมด อ้างถึงผลการศึกษาเดียวกันที่ไม่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ
ส่วนเจ้าหน้าที่นอร์เวย์เน้นย้ำในวันพุธ (6 ต.ค.) แนะนำให้ผูุ้ชายอายุต่ำกว่า 30 ปี เลือกฉีดวัคซีนของไฟเซอร์
คณะกรรมการด้านความปลอดภัยของอีเอ็มเอ สรุปในเดือนกรกฎาคม ว่าอาการหัวใจอักเสบดังกล่าวที่เกิดขึ้นน้อยมากๆ จะเกิดขึ้นตามหลังการฉีดวัคซีนสไปค์แว็กซ์ของโมเดอร์นา และวัคซีนโคเมอร์เนตีของไฟเซอร์/ไบออนเทค แต่พบบ่อยขึ้นในกลุ่มผู้ชายอายุน้อยหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2
อย่างไรก็ตาม คณะผู้ควบคุมกฎระเบียบในสหรัฐฯ อียู และองค์การอนามัยโลก เน้นย้ำว่าวัคซีนต้านโควิด-19 ที่สร้างบนพื้นฐานเทคโนโลยี mRNA ของโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทค ยังคงมีประโยชน์เหนือกว่าความเสี่ยงต่างๆ
โฆษกของโมเดอร์นาระบุเมื่อช่วงค่ำวันพุธ (6 ต.ค.) ว่าทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจของคณะผู้ควบคุมกกฎระเบียบของสวีเดนและเดนมาร์กแล้ว
"มันเป็นลักษณะของเคสอาการเล็กๆ น้อยๆ และแต่ละบุคคลมีแนวโน้มฟื้นตัวในระยะเวลาสั้นๆ ตามหลังการรักษาตามมาตรฐานและการพักผ่อน ความเสี่ยงของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบก็เพิ่มขึ้นมากอยู่แล้วสำหรับคนที่ติดเชื้อโควิด-19 และวัคซีนคือหนทางที่ดีที่สุดในการปกป้องสิ่งนี้" ถ้อยแถลงระบุ
โรแบร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีสาธารณสุขของอิตาลี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า อิตาลีไม่มีแผนระงับใช้วัคซีนของโมเดอร์นา และบอกว่าประเทศต่างๆ ในยุโรปควรทำงานร่วมกันเพื่อยกระดับประสานงานใกล้ชิดยิ่งขึ้น "เราจำเป็นต้องเชื่อใจเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ เริ่มด้วยอีเอ็มเอ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใช้อ้างอิงของเรา และได้ลงความเห็นอย่างชัดเจนมากไปแล้วในประเด็นนี้"
(ที่มา : รอยเตอร์)