หมอธีระวัฒน์ ยัน วัคซีนเชื้อตายปลอดภัยกับเด็กสุด ชี้ฉีด mRNA เสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ระบุ ฉีด ซิโนฟาร์ม 2 เข็ม ก่อนกระตุ้นเข็ม 3 ปลอดภัยกว่า
8 ต.ค. 2564 – ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ผ่าน มติชนออนไลน์ กรณีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็ก หลังรัฐบาลไทยให้ฉีดวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่า ความวิตกกังวลเป็นส่วนหนึ่ง เพราะทั้งวัคซีนไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเยื่อบุหัวใจอักเสบได้ ซึ่งพบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง อายุตั้งแต่ 12-17 ปี และมีอาการหลังฉีดเข็มที่ 2 ค่อนข้างมาก ซึ่งในหลายๆ การศึกษาจะพบ 1 คน ต่อการฉีด 1,000 คน หรือ 1 คน ต่อการฉีด 10,000 คน ซึ่งข้อมูลดังกล่าว เป็นกระบวนการติดตามผลหลังการฉีดอย่างใกล้ชิด
มันเป็นความเสี่ยง แม้ว่าจะมีคนบอกว่าน้อยก็ตาม แต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในกลุ่มผู้ปกครอง อีกประการหนึ่งคือ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนั้น แม้จะมีรายงานว่าสามารถหายเองได้ หรือใช้เวลารักษา 7 วันก็หาย
อย่างไรก็ตาม อยากให้ดูคู่มือการวินิจฉัย หรือการรักษากล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในเด็กที่ออกมาในประเทศไทย ของสมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศไทย ซึ่งในกระบวนการขั้นตอนนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่า มีความซับซ้อนอยู่ระดับหนึ่ง และอาจไปถึงกระบวนการที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้าในการดูการอักเสบของหัวใจ และการติดตามว่าจะเกิดเยื่อพังผืดในกล้ามเนื้อหัวใจหรือไม่
นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวต่อว่า หากเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบแล้ว ต้องติดตามดูว่ากระบวนการอักเสบนั้น จะหายไปได้เองหรือไม่ หรือเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ขณะเดียวกัน การเกิดเนื้อเยื่อพังผืดนั้น คอมพิวเตอร์สนามแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถวินิจฉัยได้ ซึ่งอาจจะลุกลามต่อไปได้ในอนาคตหรือไม่ และยังไม่ทราบผลกระทบที่เกิดกับการใช้ชีวิตของเด็กมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในประเทศไทยเพิ่งเริ่มนำวัคซีนทางเลือกมาฉีดให้เด็ก และการติดตามผลจะต้องติดตามอย่างน้อยครึ่งปี
ครอบครัวของเด็กมีสิทธิที่จะแสดงความกังวลได้ ดังนั้น ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จึงได้เสนอทางออก และเราก็เห็นด้วยว่าเหตุใดไม่ฉีดวัคซีนเชื้อตายในเด็กแทน เพราะวัคซีนเชื้อตายมีความปลอดภัยกว่า และหากต้องการให้มีความปลอดภัยสูงที่สุด คือ การฉีดเข้าชั้นผิวหนังตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนยี่ห้อไหนก็ตาม หากจะฉีดวัคซีนเชื้อตาย เช่น ซิโนฟาร์ม ก็อาจจะเป็นการฉีดเข้าชั้นผิวหนังตั้งแต่เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แต่วัคซีนซิโนฟาร์มนั้น ไม่เก่งที่จะครอบคลุมโควิด-19 สายพันธุ์อัลฟ่า และเดลต้าได้ดี ดังนั้น อาจมีการกระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วย วัคซีนไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ซึ่งกระบวนการนี้เด็กจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด
ข้อมูลจาก https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6666214