เช็คลักษณะ "จามแบบไหนเป็นโควิด" จามแบบไหนไม่ใช่ ตรวจสอบตัวเองก่อนติดเชื้อ เพราะอาการโอไมครอนคล้ายคลึงอาการไข้หวัดมาก
อัปเดตสถานการณ์การติดเชื้อ "โควิด19" ที่ขณะนี้มีจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงมากขึ้น ประกอบกับการระบาดของสายพันธุ์ "โอไมครอน" ที่เกิดการระบาดอย่างรวดเร็ว อาการน้อยลักษณะคล้ายไข้หวัด อาจจะทำให้ไม่สามารถระบุอาการที่ชัดเจนได้ ดังนั้น วิธีการสังเหตุตัวเองได้แบบง่าย ๆ เพื่อเช็คก่อนว่าเรามีความเสี่ยงที่จะติดโควิดหรือไม่ สามารถตรวจสอบ และสังเกตุได้จากการจาม ว่า "จามแบบไหนเป็นโควิด" หรือจามแบบไหนเป็นหวัด หรือ ภูมิแพ้ทั่วไป เพราะ จาม ถือเป็นกลไกหนึ่งที่สำคัญในการป้องกันสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้ามาในระบบทางเดินหายใจ โดยร่างกายจะขจัดหรือขับสิ่งแปลกปลอมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองออกทางจมูกและปากอย่างแรงและเร็ว
- การจามที่บ่งบอกว่าเป็นโรคภูมิแพ้
อาการจามที่บอกถึงโรคภูมิแพ้ จะมีอาการร่วมด้วย คือ คัดจมูกน้ำมูกไหล มีอาการคันตามผิวหนัง คอ จมูก เพดานปาก ผู้ที่มีอาการต้องสังเกตุตัวเองว่าแพ้อะไร และต้องสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งอาการภูมิแพ้สามารถแพ้ได้หลายอย่าง เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายไวต่อสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเรา โดยปกติแล้วสารเหล่านี้จะไม่เป็นอันตรายกับคนที่มีภูมิคุ้มกันปกติ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคภูมิแพ้จะไวต่อสารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในอากาศได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น เชื้อรา ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ อาหาร ฯลฯ
- การจามที่บ่งบอกว่าเป็นไข้หวัด
อาการจามที่มีไข้ เจ็บคอร่วมด้วย เบื้องต้นจะสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากไข้หวัด โดยอาการทั่วไปที่สามารถสังเกตุได้ คือมักจะมี หรือไม่มี ไข้ต่ำ ๆ ร่วมกับอาการทางจมูกและทางเดินหายใจ ได้แก่ อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล ส่วนใหญ่น้ำมูกจะใส มีการจาม เจ็บคอ คอแดง ทอนซิลอาจบวมแดงแต่ไม่พบจุดหนอง และไอ อาจมีปวดหัวบ้าง แต่โดยทั่วไปอาการไม่รุนแรง สามารถดื่มน้ำเยอะ ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็จะช่วยให้อาการทุเลาลง
- การจามที่บ่งบอกว่ามีความเสี่ยงเป็น โควิด-19
หากมี มีอาการไอจาม มีไข้ มีน้ำมูกและหายใจเหนื่อยหอบ อาจเข้าข่ายเฝ้าระวัง COVID19 ถึงแม้สถานการณ์โควิดในบ้านเราจะยังควบคุมได้ รวมถึงมีประวัติไปในพื้นที่เสี่ยงเช่น พื้นที่แออัด สนามบิน หรือเดินทางไปประเทศ ไปจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงมาก่อน อาจเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงซึ่งควรรีบไปพบแพทย์ และที่สำคัญอย่าปกปิดข้อมูล ก็ไม่ควรประมาท เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อทั่วโลกก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นหาก