"หมอมนูญ" ยกเคสความเก่งกาจของ "โอไมครอน" ฉีดวัคซีน 3 เข็ม แถมติดโควิดเดลตา ได้ยาต้านอย่างดีมาแล้ว ยังเอาไม่อยู่
"หมอมนูญ" นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ระบุว่า ต้องยอมรับเชื้อไวรัสโควิด "โอมิครอน" หรือ "โอไมครอน" เป็นสายพันธุ์ที่เก่งจริง ๆ
สามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจากเคยได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงครบ 2 เข็มแล้วตามด้วยเข็มกระตุ้น หรือเคยติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์อื่นก่อนหน้านี้ หรือเคยได้รับโมโนโคลนอลแอนติบอดี REGEN-COV มาก่อน ซึ่งสามารถจะเพิ่มภูมิต้านทานป้องกันการติดเชื้อเดลตาซ้ำอีก และอยู่ในร่างกายได้นานถึง 8 เดือน
"หมอมนูญ" ยกเคสผู้ป่วยหญิงอายุ 90 ปี เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นผิดจังหวะ กินยาละลายลิ่มเลือด ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกา 2 เข็ม
เดือนมิถุนายน และสิงหาคม 2564 ติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาวันที่ 21 ตุลาคม 2564 มีไข้ ไอ น้ำมูกไหล ตาแดง เนื่องจากคนไข้มีความเสี่ยงสูงที่จะป่วยรุนแรง ได้ให้โมโนโคลนอลแอนติบอดี REGEN-COV ทางเส้นเลือด ไม่ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ คนไข้ดีขึ้นเร็วมาก กลับบ้านได้ภายใน 1 สัปดาห์ หลังหายแล้ว ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์อีก 1 เข็ม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเดือนกุมภาพันธ์ 2565
วันที่ 24 มีนาคม 2565 มีอาการไข้ต่ำ ๆ มีน้ำมูก ไอบ้าง ไม่เจ็บคอ ไม่เหนื่อย วัดระดับออกซิเจนปกติเอ็กซเรย์ปอดปกติ ตรวจ ATK ให้ผลบวก เนื่องจาก
มีอาการน้อยกว่าครั้งที่แล้วมาก ได้แนะนำให้ผู้ป่วยรักษาตัวที่บ้าน และกินยาตามอาการ ไม่ให้ยาฟาวิพิราเวียร์ คนไข้ดีขึ้นเอง หายเป็นปกติใน 5 วัน
"หมอมนูญ" บอกว่า ผู้ป่วยรายนี้ขายของที่บ้าน มีคนมาซื้อของทุกวัน มีภูมิคุ้มกันจากการได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงครบโดสและได้เข็มกระตุ้นแล้ว เคยมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาเมื่อ 5 เดือนก่อน เคยได้รับโมโนโคลนอลแอนติบอดีเมื่อ 5 เดือนก่อน ซึ่งสามารถจะอยู่ในร่างกาย มีภูมิต้านทาน และป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาซ้ำได้นานถึง 8 เดือน ก็ยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนได้ ปัจจุบันเป็นที่ทราบดีว่า ประสิทธิภาพของโมโนโคลนอลแอนติบอดีชนิดฉีด REGEN-COV ต่อเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนลดลงมากเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตา ไม่สามารถนำมาใช้ป้องกันและรักษาเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
ผู้ป่วยรายนี้อายุ 90 ปี เป็นเบาหวาน ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนซ้ำอีก มีอาการน้อยมากต่างจากครั้งแรก เพราะมีภูมิคุ้มกันมากเพียงพอ แม้จะป้องกันการ
ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้ แต่ช่วยลดความรุนแรงของโรคลงได้