"ติดโควิด" โอไมครอน Omicron กักตัวกี่วัน ก่อนออกไปทำงาน ปลอดภัยสุด หมอธีระ เผยข้อมูล กักตัว แค่ 5 วัน โอกาสหลุด 50%
"ติดโควิด" กักตัวกี่วัน ระลอก โอไมครอน Omicron 5 วัน 10 วัน หรือ 14 วัน ถึงจะเพียงพอ ต่อระยะ ไม่แพร่เชื้อ แล้ว ล่าสุด (23 ก.ค.2565) "หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิด-19 ในสถานที่ทำงาน โรงงาน และสถานประกอบการ ระบุว่า
"ติดโควิด" กักตัวกี่วัน ตามความรู้วิชาการแพทย์ปัจจุบันเกี่ยวกับ โอไมครอน Omicron หากมีคนติดเชื้อ กักตัวแค่ 5 วัน โอกาสหลุด 50% 7 วันหลุด 25% 10 วัน โอกาสหลุดราว 10% แต่หาก 14 วัน ก็ดูจะปลอดภัย อย่างไรก็ตาม มักทำได้ยาก เพราะกระทบต่อระบบงานมาก
ดังนั้น หากทางสถานที่ทำงานต่าง ๆ สามารถบริหารจัดการกำลังคนได้ ให้แยกกักตัวไปอย่างน้อย 10 วันย่อมดีที่สุด แต่หากไม่ไหว หรือจำเป็นมากจริง ๆ ก็ควรให้ความรู้ และ/หรือฝึกอบรมบุคลากรที่ติดเชื้อเกี่ยวกับการป้องกันตัวให้ดี และให้กักตัว 7 วัน และตรวจ ATK ซ้ำ หากได้ผลลบ ก็มาทำงานโดยป้องกัน
อย่างเคร่งครัดอีกอย่างน้อย 7 วัน
ส่วนแนวปฏิบัติในสถานที่ทำงานสำหรับทุกคนในสถานการณ์ระบาดหนักขณะนี้ การปรับสภาพแวดล้อมในการทำงานให้มีการถ่ายเทอากาศดี การไม่รับประทานอาหารร่วมกัน และการใส่หน้ากากอย่างถูกต้องสม่ำเสมอนั้น มีความสำคัญมาก
ติดโควิดกักตัวกี่วัน
"ติดโควิด" กักตัวกี่วัน ขณะที่ งานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ New England Journal of Medicine เมื่อ 29 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ได้ให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับระยะเวลาที่ยังตรวจพบเชื้อ ปริมาณเชื้อ และเพาะเชื้อขึ้น หลังจากติดเชื้อโควิด-19 จากข้อมูลวิจัยจะเห็นได้ว่า การกักตัว 5 วันหลังการติดเชื้อนั้น ไม่เพียงพออย่างแน่นอน และยังไม่ปลอดภัย เนื่องจากยังสามารถเพาะเชื้อได้ถึงอีกเกือบ 50% และยังมีปริมาณไวรัสที่ตรวจพบระดับสูง ถ้าจะปลอดภัยตามข้อมูลเรื่องปริมาณเชื้อ และอัตราการเพาะเชื้อขึ้น คือราว 2 สัปดาห์ หรืออย่างน้อย 10 วันขึ้นไป แต่ในทางปฏิบัติจะทำได้ยากด้วยความจำเป็นด้านเศรษฐกิจ แรงงาน และการใช้ชีวิตในสังคม
ดังนั้น หากผู้ที่ติดโควิด จำเป็นต้องกลับไปใช้ชีวิต หรือทำงานก่อนเวลา 7-10 วัน ก็ต้องตระหนักเสมอว่า อาจนำเชื้อไปแพร่ให้คนอื่นได้ จึงควรป้องกันตัวเข้ม ๆ ระหว่างการใช้ชีวิตประจำวันต่อจนกว่าจะครบ 2 สัปดาห์ เพื่อจะได้ลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ โดยใส่หน้ากาก N95 หรือเทียบเท่า ไม่ถอดหน้ากากเวลาพบปะ ทำงาน หรือพูดคุยกับผู้อื่น รักษาระยะห่าง และที่สำคัญมากคือ ไม่ไปร่วมวงกินข้าวในที่ทำงาน ไม่ไปร่วมวงปาร์ตี้กินดื่มสังสรรค์ หรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อแก่ผู้อื่น หากช่วยกันปฏิบัติดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะช่วยลดโอกาสติดเชื้อแพร่เชื้อตามสถานที่ต่าง ๆ ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดปัจจุบันได้บ้างไม่มากก็น้อย