โรคไข้เลือดออก Dengue hemorrhagic fever
โรคไข้เลือดออกมีสาเหตุจากการติดเชื้อ Dengue Virus โดยมียุงเป็นพาหะ ยุงลาย (Aedes aegypti) เป็นยุงที่แพร่พันธุ์ได้ดีในเขตเมืองและเขตชุมชน โรคไข้เลือดออกจึงแพร่กระจายในเขตชุมชนทั่วไป ไวรัสไข้เลือดออกมี 4 สายพันธุ์ คือ DENV -1 ,DENV – 2,DENV – 3 และ DENV – 4 แต่ละสายพันธุ์มีความแตกต่างกัน ดังนั้น การติดเชื้อไวรัสใด สายพันธุ์หนึ่งแล้ว จึงไม่มีผลต่อการที่ร่างกายจะมีภูมิต้านทาน ต่อไวรัสสายพันธุ์อื่นจึงเป็นโรคไข้เลือดออกซ้ำได้ ซึ่งข้อมูลพบว่า การติดเชื้อนี้ อาการของโรคจะรุนแรงกว่าการติดเชื้อครั้งแรกมาก
ประเทศไทยเป็นแหล่งระบาดของโรคไข้เลือดออกแห่งหนึ่งโดยมีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า ปี พศ. 2557 มีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก 36,404 ราย เสียชีวิต 30 ราย แต่ในปี 2558 พบผู้ป่วย สูงถึง 111,826 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 108 ราย และมีข้อมูลว่าโรคนี้มักมีการระบาดใหญ่ โดยจะมีผู้ติดเชื้อมาก ช่วงฤดูฝน เนื่องจากยุงลายมีการแพร่พันธุ์มาก
ปัจจุบันโรคไข้เลือดออกระบาดอยู่ในมากกว่า 100 ประเทศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขตร้อน และ เขตอบอุ่นของโลก รายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่า แต่ละปีมีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้เลือดออกไม่น้อยกว่า 400 ล้านคน เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 22,000 คน ได้มีความพยายามที่จะผลิตวัคซีน ป้องกันโรคไข้เลือดออก มานานกว่า 40 ปี จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ ผลจากการวิจัยของบริษัทผู้ผลิตยาในประเทศฝรั่งเศส (Sanofi) ได้ประกาศผลสำเร็จของวัคซีน โดยใช้ชื่อว่า “Dengvaxia” ผลจากการทดลองกับอาสาสมัครกว่า 40,000 คน ใน 15 ประเทศ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยวัคซีนให้ผลดีในอาสาสมัครอายุ 9 ปีหรือสูงกว่า ถึง จำนวน 2 ใน 3 และ เพิ่มสูงขึ้นถึงกว่า 90 % ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง โดยบริษัท Sanofi ใช้เวลานานถึงกว่า 20 ปี ใช้เงินไปทั้งสิ้น 59,000 ล้านบาท ขณะนี้วัคซีนกำลังถูกนำไปใช้ใน มากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก