ถ้าใครไปเที่ยวจีน แล้วใช้เงินสดซื้อของ อาจถูกมองว่ามาจากยุคไหน เพราะปัจจุบันจีนใช้ระบบออนไลน์สแกนใบหน้าจ่ายเงินแล้ว และยุคนี้ใครๆ ก็อยากแวะร้านเสียวหมี่ที่มีแกดเจ็ตเทพๆ ถูกๆ ให้เลือก ทำไมจีนพัฒนาได้ก้าวไกล
กว่าจะรู้จักจีนอย่างลึกซึ้ง ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ต้องใช้เวลาในการศึกษา หาประสบการณ์ ทั้งอ่านหนังสือเกี่ยวกับจีน ทำงานในจีน และคบหาสมาคมกับเพื่อนชาวจีน รวมถึงเดินซอกแซกในเมืองต่างๆ แวะไปหยอดเหรียญตีปิงปองกับหุ่นยนต์ นั่งรถไร้คนขับ ฯลฯ
จากคนไม่ดื่มเหล้า เขาใช้สุรานำทาง สร้างมิตรภาพ เพราะคนจีนจะให้ความสำคัญกับการกินและดื่ม
และนี่คือ เรื่องราวของดร.ไพจิตร ซึ่งจบปริญญาโท MBA ด้านการค้าระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย Laredo State และปริญญาเอก บริหารธุรกิจ ด้านธุรกิจระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัย Nova สหรัฐอเมริกา ในยุคที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นความสำคัญ“การค้าระหว่างประเทศ” แต่เขาเชื่อว่าจะเป็นเรื่องสำคัญในอนาคต
และก็เป็นอย่างที่เขาคิด เขาได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาเข้ารับราชการเป็นกงสุล ฝ่ายการพาณิชย์ ที่นครเซี่ยงไฮ้ สังกัดกรมส่งเสริมการส่งออก (ปัจจุบันกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) กระทรวงพาณิชย์ และเป็นอัครราชทูต ฝ่ายการพาณิชย์ กรุงปักกิ่ง สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์เมือง รวมๆ รับราชการในจีน 8 ปีครึ่ง
หลังจากออกจากราชการ เขาหันมาทำงานที่หอการค้าไทยในจีน และ 3 ปีต่อมาเป็นรองประธานฯ อีกตำแหน่ง รวมถึงทำงานเป็นนักเขียนอิสระ อาจารย์พิเศษ กรรมการและที่ปรึกษาองค์กรภาครัฐและเอกชน และกลางปี 2563 มาช่วยงานสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีนอีกทางหนึ่ง
และนี่คือเรื่องราวคนที่คุ้นเคยจีนดีที่สุดคนหนึ่งในเมืองไทย
อยากให้เล่าประวัติส่วนตัวสักนิด?
ผมเคยรับราชการ หลังจากนั้นมาทำงานเป็นที่ปรึกษาภาคเอกชน ทำงานกับคุณสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) ซึ่งอยากให้ผมช่วยงานหอการค้าไทยในจีนเต็มตัว เพราะเมื่อ 4-5ปีที่แล้ว คนที่ทำงานหอการค้าไทยในจีน ส่วนใหญ่จะมีธุรกิจของตัวเอง จึงให้ความสำคัญกับหอการค้าฯน้อย แต่ท่านให้ความสำคัญ อยากให้เป็นสถาบันช่วยผู้ประกอบการในการบุกตลาดขยายธุรกิจในจีน ก็เลยชวนผมมาเป็นเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ทำงานเหมือนซีอีโอ
เป็นซีอีโอหอการค้าไทยในจีน แล้วทำธุรกิจด้านอื่นด้วยไหม
ที่เขาดึงผมมาจากภาคราชการ เพราะผมไม่มีธุรกิจ แม้จะมีคนชวนทำธุรกิจ ตั้งแต่ร่วมทุนจนถึงถือหุ้นลม ผมไม่เอา ผมอาจจะเป็นคนโบราณที่มีอุดมคติ อยากเป็นเลขานุการมืออาชีพ เพราะผมเคยได้ยินบางคนบอกว่า ผลประโยชน์ของสมาคมหรือองค์กรเช่นนี้มักจะตกอยู่ที่กรรมการบริหาร
ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยไม่มีโอกาสทำธุรกิจในจีน ไม่มีโอกาสเติบโต ดังนั้นใครอยากจะค้าขายหรือลงทุนมาปรึกษาลู่ทางธุรกิจกับผม ผมและทีมงานยินดีช่วยดูความเหมาะสมให้ เพราะการลงทุนในจีนต้องมีความลุ่มลึกในการจับคู่ธุรกิจให้เป็นรูปธรรม
หุ่นยนต์แบบนี้ธรรมดามากในจีน
เรียนรู้เรื่องจีนๆ จากไหนบ้าง
ชั้นหนังสือบ้านผมครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับจีน ผมชอบอ่านหนังสือ ค้นคว้า และมีประสบการณ์ในจีน เพราะผมเขียนบทความและหนังสือ อีกอย่างผมทำงานใกล้ชิดกับภาคเอกชนและภาครัฐของจีน
จีน 15 ปีที่ผ่านมากับ 30 ปีที่แล้วก็ไม่เหมือนกัน ยิ่งในระยะหลังยิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผมมีโอกาสทำงานกับคุณธนากร เสรีบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน ซึ่งมีประสบการณ์เข้าออกจีนกว่า 30 ปี
ท่านกรุณาเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ผมฟัง นอกจากมุมมองของจีน ยังมีมุมมองธุรกิจต่างชาติ พอผมช่วยงานหอการค้าไทยในจีนได้ 5 ปี ท่านก็ทาบทามให้ผมมาเป็นเลขาธิการสมาคมฯ ผมก็เลยเอาสองส่วนนี้เชื่อมโยงเพื่อทวีกำลังกัน มีออฟฟิศทำงานทั้งในจีนและไทย
เท่าที่ผมเห็น จีนเป็นประเทศใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ตั้งแต่ท่านเติ้ง เสี่ยวผิง มีนโยบายเปิดประเทศสู่ภายนอก เศรษฐกิจจีนขยายตัวเฉลี่ยปีละ 9.5% รัฐบาลทำให้คนจีนกว่า 800 ล้านคนหลุดพ้นจากความยากจน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งผลให้คนมีกำลังซื้อในประเทศเพิ่มมากขึ้น
ถ้าจะเข้าใจจีนอย่างลึกซึ้ง ต้องทำอย่างไร
ต้องยอมรับก่อนว่า เราไม่ค่อยรู้จักจีน ต้องเปิดกว้าง รับข้อมูลความคิด ก่อนผมจะมาประจำในเมืองจีน ผมคิดไปเองว่า จีนไม่เติบโตเพราะไม่เปิดกว้างทางความคิด แต่พอผมไปอยู่ที่นั่น ผมรู้เลยว่า จีนเปิดกว้างทางความคิด ยอมรับการเปลี่ยนแปลง 10 ปีที่ผ่านมาคนจีนวัย 60-70 ปีใช้สมาร์ทโฟนเป็นเรื่องปกติ มีอะไรใหม่ก็ลองใช้
ขณะที่ผมซื้อสมาร์ทโฟนให้แม่ แม่บอกว่าไม่เอาแบบที่ปัดหน้าจอไปมา เพราะใช้ไม่เป็น ผู้ประกอบการไทยบางคนเห็นคิวอาร์โค้ด ยังนั่งงงว่า มันคืออะไร ดังนั้นถ้าเรารู้ไม่ลึกเกี่ยวกับธุรกิจที่เป็นสมาชิกของเรา เราจะไปจับคู่ธุรกิจ ขยายธุรกิจ ช่วยเหลือเขา ก็เหมือนตาบอดคลำช้าง
จากคนไม่ดื่มเหล้าก็หันมาดื่ม เพื่อสร้างสัมพันธภาพ ถ้าอย่างนั้นต้องเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตไหม
10 ปีที่แล้วผมไม่ดื่มเหล้า ถ้าวันไหนดื่มเบียร์หมดขวด นั่นแสดงว่าเป็นมื้อพิเศษ แต่ไปอยู่เมืองจีนตอนอายุ 42 ปี จำได้ว่า 6 เดือนแรกผมอาเจียนบ่อยมาก ธรรมเนียมจีนถ้าเขาชวนดื่ม แล้วไม่ดื่ม เหมือนคุยคนละภาษา เราอยากเป็นเพื่อนกับคนจีนก็เลยต้องดื่ม
ถ้าคนจีนยอมโน้มตัวตักอาหาร หรือจุดบุหรี่ให้อีกฝ่าย นั่นเป็นการให้เกียรติ เวลาจะชนแก้วเหล้ากับคนจีน เราควรลดระดับแก้วให้ต่ำกว่า เพื่อให้เกียรติเขา เขาก็จะให้เกียรติเราตอบ ความจริงใจก็สำคัญ ถ้ามีความจริงใจเวลาคุยเจรจาการค้ากัน โอกาสที่จะพัฒนาความร่วมมือหรือตกลงกันง่ายขึ้น
ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
หลายคนบอกว่าจีนเปลี่ยนแปลงเร็วมาก อยากให้อธิบายเพิ่มสักนิด?
เวลาอยู่จีน ทุกๆ สัปดาห์ ผมจะล็อคเวลาครึ่งวันเพื่อเดินดูสิ่งใหม่ๆ ในเซี่ยงไฮ้และเมืองต่างๆ ไปนั่งรถแท็กซี่ไร้คนขับ หยอดเหรียญตีปิงปองกับหุ่นยนต์ เพราะเราต้องพาคณะไทยไปสำรวจตลาดจีนอยู่เรื่อยๆ ถ้าเราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง เราจะพาเขาไปไม่ได้ จะเอามาบรรยายก็ไม่รู้อีก
ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีเร็วมาก จีนได้ก่อสร้างจานดาวเทียมขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในมณฑลกุ้ยโจว และพัฒนาท่าเรือหยางซานที่เป็นอัตโนมัติ ไม่ใช้แรงงานคน รวมถึงจะพัฒนาระบบขนส่งสินค้าทางอุโมงค์ใต้ทะเลในเร็วๆ นี้ จีนจะมีรถไฟแม่เหล็กความเร็วสูงสุด 600 กิโลเมตรต่อชั่วโมงจากปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้ ย่นย่อเวลาเหลือ 3 ชั่วโมง
มีคำกล่าวว่า จีนเปลี่ยนเล็กทุกปี เปลี่ยนใหญ่ทุก 3 ปี สะท้อนว่าเมืองจีนเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว อย่างแผนพัฒนา 5 ปี พวกเขาวางแผนแล้วก็ลุยไปข้างหน้า ถ้าระบบพรรคคอมมิวนิสต์มีนโยบายชัดเจนแล้ว องคาพยพที่เกี่ยวข้องจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางเดียวกัน ภาคเอกชนจะรู้ดีว่า เมื่อรัฐออกนโยบายจะไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ
การสานต่อนโยบายของรัฐบาลจากรุ่นสู่รุ่นถือเป็นหน้าที่ แต่บ้านเราหรือต่างประเทศตรงกันข้าม ทำให้เมืองจีนพัฒนาอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง เวลาจะทำเรื่องอะไร จะมีกรณีศึกษาเป็นเรื่องเป็นราว ระบบการเมืองเชื่อมต่อกับทุกส่วน สามารถดำเนินการตามแผนได้เร็วกว่าหลายประเทศ
เทคโนโลยีเป็นตัวเร่ง ทำให้จีนพัฒนาประเทศเร็วขึ้น ?
จีนมีเป้าหมายว่า จะทำยังไงให้ประเทศมั่งคั่ง กิจการที่กระจุกอยู่ในภาครัฐต้องกระจายสู่ภาคเอกชน มีการปรับโครงสร้างพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น และเมื่อนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนา แรงงานไร้ฝีมือต้องพัฒนาเป็นแรงงานมีฝีมือ
เพราะรัฐบาลช่วยในเรื่องเครื่องจักรที่ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ใช้แรงงานเยอะ จีนไม่ได้มีปัญหาการว่างงาน แต่มีปัญหาขาดแรงงานเชิงคุณภาพ และแรงงานที่มีฝีมือ
เพราะอะไรคนจีนจึงพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
คนไทยอาจจะคิดเก่ง แต่ไม่ปฏิบัติ เมื่อเริ่มใช้ระบบ 5 G คนจีนจะมองหาโอกาสทางธุรกิจ ตอนไวรัสโควิดระบาด จีนงัดนวัตกรรมออกมาใช้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ช่วยเพิ่มการแข่งขันในสินค้าและบริการบนเวทีโลก
การขจัดความยากจนในจีนจัดการอย่างไร
เอาเทคโนโลยีมาพัฒนาให้เป็นรูปธรรม ยกตัวอย่าง เกษตรกรบ้านเรามีปัญหาคล้ายจีนคือ อายุเยอะ คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยเป็นเกษตรกร เกษตรกรรุ่นเก่ามีความสามารถการเพาะปลูกแต่ขาดแรงงาน ถ้าอย่างนั้นต้องเอาเทคโนโลยีแบบไหนมาประยุกต์ใช้
จีนผลิตเครื่องจักร เครื่องมือการเกษตรขนาดเล็กเพื่อใช้พรวนดิน หว่านเมล็ดพืชสำหรับแปลงเกษตรขนาดมาตรฐาน ไม่ได้มานั่งจิ้มปลูกทีละต้นเหมือนบ้านเรา เวลาเก็บเกี่ยวก็มีความเครื่องจักรเครื่องทุ่นแรง และตอนนี้ก็เชื่อมโยงเครื่องมือเหล่านั้นกับสัญญาณดาวเทียมได้ด้วย
ส่วนปัญหาการเกษตรไทย ยังไม่ค่อยมีเครื่องจักรเครื่องมือทางการเกษตรตอบโจทย์เรื่องนี้ ไทยปลูกยางพารามาร้อยปี จีนปลูก 4 ปีเอาหุ่นยนต์มากรีดยางได้แล้ว แต่เกษตรกรไทยต้องโค่นต้นยางทิ้ง เพราะไม่มีแรงงาน
ถ้าอย่างนั้นไทยควรซื้อเทคโนโลยีขนาดเล็กจากจีนไหม
ไม่จำเป็น เพราะจีนก็ซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศ แต่นำมาก็อปปี้พัฒนาต่อยอด ตอนนี้จีนไม่ใช่แค่พัฒนาวิจัย แต่วิจัยแล้วผลิตนวัตกรรม จีนลดการพึ่งพาตะวันตก จะพัฒนาเทคโนโลยีเอง จีนกำลังยืนด้วยลำแข้งตัวเองบนเวทีโลก ตอนนี้คนจีนไม่ยอมรับการคอร์รัปชัน ส่วนไทยไม่รู้เรื่องนี้จะลงถึงจุดต่ำสุดเมื่อไหร่
(อีกไม่นานเกินรอ จีนจะมีรถไฟความเร็วสูงมากที่สุดในโลก )
แจ็คหม่าอยู่ตรงไหนในความสำเร็จของจีน
สื่อจีนบอกว่า จะไม่มียุคของแจ๊คหม่า มีแต่แจ็คหม่าที่เป็นส่วนหนึ่งในยุครุ่งโรจน์ของจีน เพราะมีบริษัทที่สร้างความรุ่งเรืองให้จีนอีกเยอะ พรรคคอมมิวนิสต์จีนอยากให้ผู้นำของเขามีความโดดเด่นในเวทีจีนหรือเวทีโลก แม้การเอา AntGroup (บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มจ่ายเงินอย่าง Alipay ของเครืออาลีบาบา) เข้าตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และฮ่องกงได้แล้ว เพื่อเสนอขายหุ้นครั้งแรกอาจทำให้แจ็คหม่ารวยที่สุดของจีน แต่ไม่ใช่เป้าประสงค์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
สินค้าที่ขายดีในไทย จะขายดีในจีนไหม
ปัจจัยแวดล้อมระหว่างไทยกับจีนไม่เหมือนกัน การรู้หรือเข้าใจวัฒนธรรมจีนอาจรู้แบบผิดๆ คนไทยที่มีเชื้อสายจีน ส่วนใหญ่เป็นแต้จิ๋ว แต่จีนมีหลายเผ่าพันธุ์ แต้จิ๋วในเมืองจีนมีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ เวลาจะพัฒนาสินค้าออกมาขาย ต้องตอบโจทย์แต่ละภูมิภาคที่มีสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์แตกต่างกันให้ได้ก่อน
ถ้ามองจากภาพใหญ่ จีนเติบโตจากซีกตะวันออก ไปตอนกลางและซีกตะวันตก เติบโตจากเมืองสู่ชนบท คนในเมืองมีรายได้สูงกว่านอกเมืองสองเท่า
มีคนทำธุรกิจจำนวนมากเข้าไปทำธุรกิจโดยไม่ได้พิจารณาประเด็นเหล่านี้ คนที่ลงทุนในระยะแรกมักจะเจอปัญหาในระยะที่สอง ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จในระยะแรก พอคิดจะขยายโรงงานก็ไม่ได้คิดโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมไว้ตั้งแต่แรก ทั้งเรื่องแฟรนไชส์ การบูรณาการเอาทรัพยากรจีนมาใช้ประโยชน์กับเครือข่ายธุรกิจ
เข้าไประยะแรกไม่ทันได้เห็นความแตกต่างระหว่างไทยจีน จึงล้มเหลว แม้กระทั่งบริษัทใหญ่ ๆในแถบตะวันตกที่เข้ามาลงทุนในจีน หลายแห่งเร่งเติบโตขยายธุรกิจ จึงมีหนี้สิน เพราะการลงทุนในเมืองใหม่ๆ การทำการตลาดใช้เงินเยอะ ถ้าไม่เข้าใจขนาดตลาดก็เกิดปัญหา
ยกตัวอย่างสักนิด?
มีผู้ประกอบการไทยรายหนึ่ง ฝันอยากเห็นคนจีนซื้อขนมไทยไปฝากคนอื่น เขาลาออกจากงานโรงแรมไปทำธุรกิจในจีน แต่ไม่ค่อยเข้าใจธุรกิจ แรกๆ เช่าพื้นที่ใช้ไลเซ่นร้านอาหาร ตื่นตี 3 ทำขนมขายหน้าร้านทุกวัน ผมให้คำปรึกษาว่าต้องทำระบบขายแฟรนไชส์ อย่าขายเฉพาะหน้าร้าน
เขาก็เลยขายทางออนไลน์และเดลิเวอร์รีมากขึ้น เวลาคนจีนจัดประชุมสามารถสั่งขนมไทยจากร้านนี้ในเซียงไฮ้ จากเดิม 80 % ขายหน้าร้าน ตอนนี้ 80% เป็นเดลิเวอร์รี
ผมบอกไปว่า ระบบเฟรนไชส์ต้องคุมตั้งแต่ต้นน้ำ เพื่อให้คนซื้อพึ่งพิงตลอด เขาสามารถควบคุมสูตรการผลิตและวัตถุดิบได้ ซึ่งเป็นเรื่องดีๆ เวลาผมอยู่จีน ผมต้องทำวิจัยเป็นระยะ คนจีนบอกว่า สินค้าไทยดีมาก แต่หาซื้อลำบาก เพราะเครือข่ายจำกัด
คาดว่าอีกกี่ปี จีนจะเป็นเบอร์หนึ่งของโลก
ปีนี้จีนโตกว่าอเมริกา 7.5 เปอร์เซ็นต์ อีก 10ปีข้างหน้าจีนจะเทียบชั้นอเมริกา เป็นเบอร์หนึ่งของโลก อย่างช้าปีคศ. 2035 ตอนนี้จีนเป็นผู้นำด้านตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค และจีนจะเพิ่มบทบาทในเวทีต่างๆ ของโลก
จีนนอกจากให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ย้อนไป 15-20 ปีคนมาเที่ยวจีน จะรบเร้าให้ผมพาไปซื้อของก็อปปี้ แต่วันนี้ของก็อปกลายเป็นของเลหลัง ตอนนี้ใครๆ ก็อยากไปร้านเสี่ยวหมี่ที่ใหญ่ที่สุด ไปดูแกดเจ็ตกัน
จีนกล้าประกาศความเป็นเบอร์หนึ่ง เพราะรู้เขารู้เรา จึงทุ่มทุนมหาศาลวิจัยพัฒนา วันนี้จีนเป็นประเทศหนึ่งที่มีเรือดำน้ำสำรวจท้องมหาสมุทรที่ลึกๆ จำนวนมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ลงทะเลไม่พอขึ้นอวกาศ ปีที่แล้วจีนส่งยานอวกาศไปลงด้านมืดของดวงจันทร์ ปีนี้ปล่อยยานอวกาศไปดาวอังคาร พร้อมหุ่นยนต์
อีกเรื่องหนึ่งที่ทำคือ การทำดวงจันทร์เทียม ซึ่งเราไม่ค่อยได้ยิน เริ่มทดลองในพื้นที่เฉินตู มณฑลเสฉวนบนเทือกเขาสูง ต่อไปกลางวันจีนสามารถเก็บพลังงานในสถานีอวกาศ กลางคืนยิงแสงลงมาในพื้นที่ทดลองมณฑลเสฉวน
อีก 4-5 ปีข้างหน้าเราจะเห็นโครงการพระจันทร์เทียมทดลองใช้ ส่วนเมืองกุ้ยโจวที่ยากจนมากที่สุดของจีน จะมีรถไฟความเร็วสูงผ่านถ้ำผ่านภูเขามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีการเจาะภูเขา และมณฑลนี้จะเป็นศูนย์บิ๊กดาต้าใหญ่ของจีน ช่วงหลังมีคนบอกเจอแจ็คหม่าที่กุ้ยโจวมากกว่าหางโจว บ้านเกิดของเขา
ในเรื่องการพัฒนาออนไลน์ จีนไปไกลแค่ไหน
แพลตฟอร์มต่างๆ ในจีนแข่งขันกันเยอะ แจ๊คหม่าเอาออนไลน์และออฟไลน์รวมกันแล้วต่อยอด ถ้าสั่งสินค้าในรัศมี 3 กิโลเมตรเครือข่ายของอาลีสบาบาจะส่งของให้ภายใน 30 นาทีไม่มีค่าใช้จ่าย หรือไปช้อปที่ร้าน จัดส่งของถึงบ้านได้เลย คนยังไม่ถึงบ้าน ของส่งถึงบ้านแล้ว เพราะโครงข่ายซัพพลายเออร์เยอะ สมัยก่อนสแกนจ่ายเงิน สมัยนี้สแกนใบหน้า ฝ่ามือ นิ้วมือ คือจ่ายเงิน
เวลาไปวิ่งออกกำลังกายไม่ได้เอาเงินไป สามารถสแกนใบหน้าซื้อสินค้าได้เลย ช่วงโควิดจีนขายหน้ากากอนามัย สแกนผ่านบัตรประชาชนให้คนละสองชิ้นต่อวัน กว่า 95 %ในจีนเป็นโลกดิจิทัลไปแล้ว ถ้าคุณไปจีนแล้วจ่ายเงินสด คุณจะถูกมองเป็นมนุษย์ต่างดาว เพราะลิ้นชักของพวกเขาจะไม่มีเงินทอน ถ้าเลือกได้ให้จ่ายเป็นดิจิทัล
.................
หมายเหตุ : จากการร่วมอบรม โครงการ มองจีนยุคใหม่ ความท้าทายที่สื่อไทยควรรู้ ปีที่ 3 ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย วันที่11-15 พฤศจิกายน
ข้อมูลจาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/910891?anf=